วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น

5 วิธีเลือกตู้เย็นให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
15 ธันวาคม 2021

วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น

การเลือกซื้อตู้เย็นในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ดีไซน์ที่ทันสมัย ไม่จำกัดแค่ตู้เย็น 1 ประตูหรือตู้เย็น 2 ประตูเหมือนในอดีต อีกทั้งตู้เย็นยุคใหม่ยังช่วยประหยัดไฟมากยิ่งขึ้น แม้จะใช้งานอย่างหนักและเสียบปลั๊กไฟไว้นานเท่าเดิม สวนทางกับราคาของตู้เย็นที่ถูกลงกว่าสมัยก่อนหลายเท่าตัว
ด้วยเหตุนี้ใคร ๆ ต่างก็เป็นเจ้าของตู้เย็นได้ง่ายขึ้น ชั้นวางของภายในก็สามารถขยับ ย้าย ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้มากกว่า แต่จะเลือกตู้เย็นอย่างไรให้เหมาะกับห้องครัวของเรา

5 วิธีเลือกตู้เย็นให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

1. ความต้องการของผู้ใช้งานจริง

ตู้เย็น-01-1200x600.jpg

ตู้เย็น-05.jpg

ควรเลือกตู้เย็นตามความต้องการของผู้ใช้จริง เช่น คุณอยู่กันเป็นครอบครัวจำเป็นต้องใช้ตู้เย็นเพื่อเก็บรักษาของสด วัตถุดิบในการปรุงอาหาร เครื่องดื่ม อาจเลือกตู้เย็น 2 ประตู ที่แยกช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็นธรรมดาออกจากกันชัดเจน เพื่อใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ภายในตู้มากกว่าตู้เย็น 1 ประตู
แต่ถ้าคุณเป็นหนุ่มโสด สาวโสด ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโด คุณอาจมองหาแค่ตู้เย็นขนาดเล็ก ตู้เย็นมินิก็เพียงพอแล้ว เหมาะสำหรับการใส่เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็งได้พอประมาณสำหรับ 1-2 คน

2. ดีไซน์สะท้อนรสนิยม

ตู้เย็น-06-1200x600.jpg

ดีไซน์ของตู้เย็น เช่น สี, รูปแบบ, ขนาด ก็มีส่วนทำให้แขกคนพิเศษของคุณเกิดความประทับใจในดีไซน์ภายนอกของตู้เย็นได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ตลอดจนสะท้อนรสนิยมในการเลือกใช้ของของคุณได้อีกด้วย

3. ประหยัดไฟเบอร์ 5

ตู้เย็น-04.jpg

4. จำนวนชั้นวางภายใน

ตู้เย็น-03-1200x600.jpg

ตู้เย็นที่เหมาะสมกับการเก็บอาหารในบ้านควรมีชั้นวางที่เหมาะสมกับอาหารประเภทต่าง ๆ

5. ความเงียบของการทำงาน

ตู้เย็น-07-1200x600.jpg

เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา หากมีเสียงดังรบกวนก็คงไม่เหมาะกับการใช้งานในที่อยู่อาศัยขนาดเล็กอย่างหอพักหรือคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ก็ควรเลือกตู้เย็นที่ทำงานเงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนตัดปัญหาความรำคาญในบ้านได้ดีเลยทีเดียว

วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

ตู้เย็น-08-1200x400.jpg

6 เคล็ดลับการใช้งานตู้เย็นอย่างประหยัดและปลอดภัย

1} ไม่ควรใช้งานตู้เย็นทันที เมื่อขนย้ายเสร็จ
- ควรปล่อยไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง หลังการเคลื่อนย้าย แล้วจึงค่อยเสียบปลั๊กใช้งานตู้เย็น
2} ปรับอุณภูมิให้เหมาะสม
- อุณหภูมิทั่วไปที่ตู้เย็นต้องทำความเย็นจะอยู่ที่ 36-38 องศาฟาเรนไฮต์ ขณะที่อุณหภูมิช่องแช่แข็งที่เหมาะสมนั้น คือ 0-5 องศาฟาเรนไฮต์
3} ห้ามนำของร้อนจัดเข้าตู้เย็น
4} กำหนดตำแหน่งตั้งตู้เย็นให้เหมาะสม
5} ควรเลือกตำแหน่งแช่ของให้เหมาะสม
6} อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย หรือเปิดทิ้งไว้นาน ๆ

วิธีการบำรุงรักษา

3 วิธี ง่ายๆ ในการดูแลรักษาตู้เย็น ให้ใช้งานได้นาน แถมช่วยประหยัดไฟฟ้า

1} ตำแหน่งวางตู้เย็น
- จัดวางในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
- ให้แผงระบายความร้อนด้านหลังอยู่ห่างจากผนังประมาณ 6 นิ้ว เป็นอย่างน้อย
- อย่าให้หน้าต่างหรือม่านประตูมาอยู่ใกล้แผงระบายความร้อน เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก
- อย่าตั้งตู้เย็นไว้ใกล้บริเวณต้นกำเนิดความร้อน อาทิ เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว
- อย่าตั้งตู้เย็นในบริเวณที่เปียกชื้น
- ฐานตั้งตู้เย็นต้องแข็งแรงมั่นคง
2} ควรตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม
- ในอุณหภูมิ 3-6 องศาเซลเซียส ส่วนช่องแช่แข็งติดตั้งอุณหภูมิประมาณลบ 15-18 องศาเซลเซียส ถ้าตั้งไว้เย็นกว่าที่กำหนด 1 องศาเซลเซียส จะสิ้นเปลืองไฟเพิ่มขึ้นร้อยละ 25
- หมั่นละลายน้ำแข็งอย่าให้น้ำแข็งเกาะในช่องน้ำแข็งมากเกินไป โดยกดปุ่มละลายน้ำแข็งหรือดึงปลั๊กออกจนน้ำแข็งละลายหมด
3} การติดตั้งเต้าเสียบปลั๊ก
- การติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟเพื่อให้เหมาะสมกับการเสียบปลั๊กตู้เย็นนั้น ควรอยู่สูงไม่ต่ำกว่าระดับ 1.25 เมตร เพื่อป้องกันบุตรหลานของท่านจับต้อง หรือเอาสิ่งของอย่างอื่นแหย่เข้าไป

Just-for-you.jpg