นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

บริษัท เชียงใหม่สยามทีวี จำกัด (“บริษัท”) มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ซื้อสินค้า และใช้บริการสนับสนุนหลังการขายต่าง ๆ ของบริษัท ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (1) หน้าร้าน Siam TV Store (2) ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของบริษัทโดยตรง อาทิเช่น ผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัท และ Social Media ของบริษัท (เช่น Line Official Account หรือ Facebook) และ (3) ผ่านช่องทาง Online Marketplace ซึ่งเป็นของผู้ให้บริการภายนอกอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้า (“ลูกค้า”) ทราบ

ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าเข้ามาภายในพื้นที่ร้าน Siam TV Store และ/หรือซื้อสินค้า รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ทางบริษัทจะถือว่า ลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้แล้ว และหากลูกค้าไม่ตกลงให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการให้บริการ ขายและ/หรือจัดส่งสินค้า หรือให้บริการหลังการขายอื่น ๆ แก่ท่าน เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัทในการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทมีต่อลูกค้า

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้สำหรับการซื้อขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายผ่านร้าน Siam TV ของทางบริษัทเท่านั้น แต่ไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือการให้บริการเสริมอื่น ๆ ของบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึงบริษัทผู้เป็นเจ้าของยี่ห้อหรือแบรนด์สินค้า หรือพันธมิตรทางการค้าอื่น ๆ ของบริษัท แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการของทางบริษัท ซึ่งเป็นการดำเนินการที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลโดยผู้ให้บริการ Online Marketplace หรือของบริษัทพันธมิตรที่อาจจัดกิจกรรมโปรโมชั่นเพิ่มเติมจากสินค้าที่บริษัทจำหน่าย) ซึ่งเป็นส่วนที่ลูกค้าต้องศึกษาและทำความตกลงเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือนโยบายความเป็นส่วนตัวที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประกาศแยกต่างหาก

ทางบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการขาย การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทประมวลผล

สำหรับการจำหน่ายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน Siam TV Shop ได้แก่

ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่อาจได้รับการบันทึกผ่านการดำเนินการดังนี้

ผ่านระบบ CCTV ของบริษัทที่ติดตั้งไว้บริเวณพื้นที่ร้านที่มีการติดตั้งอยู่

ผ่านการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่จัดขึ้นภายในพื้นที่ร้านค้า ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่าง ๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของการจัดกิจกรรมหรือจัดทำการถ่าย ทอดสดดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้

ข้อมูลการใช้บริการอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการให้ WIFI Access แก่ท่านผู้เข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตดังกล่าว ได้แก่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อ และข้อมูลการจราจรต่าง ๆ ที่ท่านใช้ผ่าน WIFI ของบริษัท)

ข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้าซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS

ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ลูกค้าอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการซื้อสินค้าที่ต้องการ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

เอกสารเพื่อการจัดทำเอกสารบัญชีและภาษีให้แก่ท่าน เช่น ข้อมูลหลักฐานบัตรประชาชนที่ลูกค้าอาจนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการออกใบกำกับภาษี หรือหนังสือเดินทางเพื่อการออก Tax Refund

เอกสารหลักฐานเพื่อการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าที่ร้องขอ โดยเฉพาะสำเนาบัตรประชาชน และสัญญาหรือเอกสารสินเชื่ออื่น ๆ

ข้อมูลที่อยู่สำหรับการจัดส่งสินค้าที่ลูกค้าต้องลงทะเบียน และจัดทำระบบ GIS

ข้อมูลสำหรับการติดต่อแจ้งรายละเอียดสินค้าที่ลูกค้าต้องการสั่งจอง ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และข้อมูลการติดต่อ (เช่น เบอร์โทรศัพท์ และ/หรืออีเมล)

ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใด ๆ กับบริษัท

สำหรับการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Online ทั้งผ่านช่องทางของบริษัทโดยตรง หรือผ่านช่องทางจำหน่ายของบุคคลภายนอก ได้แก่

ข้อมูลชื่อนามสกุลของลูกค้า และข้อมูลการติดต่อสำหรับการจัดส่งสินค้า อาทิ ที่อยู่การจัดส่งสินค้า เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ เช่น email

ข้อมูลเทคนิคที่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ เช่น IP Address หรือข้อมูลเครื่องมือที่ลูกค้าใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ของบริษัท และหากได้รับความยินยอมจากลูกค้า อาจรวมถึงข้อมูลคุกกี้บางประเภท

ข้อมูลการลงทะเบียน User Account ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัท ที่มีการลงทะเบียน ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลการ ลงทะเบียน และข้อมูลธุรกรรมการค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของลูกค้าดังกล่าว

ข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้า เช่น รายการธุรกรรมการซื้อสินค้า รายละเอียดสินค้าที่ซื้อ เป็นต้นซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลหลักฐานการชำระเงินที่ลูกค้าชำระให้แก่บริษัทสำหรับค่าสินค้าต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระค่าสินค้า

ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใด ๆ กับบริษัท

สำหรับการให้บริการสนับสนุนหลังการขายต่าง ๆ รวมถึงการให้บริการซ่อม

ภาพถ่ายของลูกค้าที่ได้มีการจัดส่งสินค้า และแบบฟอร์มการรับสินค้าที่ต้องลงนาม เพื่อเป็นหลักฐานการส่งมอบสินค้า

ข้อมูลแสดงตัวตนของลูกค้า (เช่น ชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อ) และข้อมูลอื่น ๆ ที่ลูกค้าอาจต้องให้สำหรับการกรอกแบบฟอร์มการขอการรับประกัน หรือการใช้บริการซ่อมที่บริษัทอาจกำหนด

ข้อมูลการใช้บริการทั้งหมดของลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลรายละเอียดการติดต่อเพื่อใช้บริการเคลม หรือการรับประกันชำรุดบกพร่องต่าง ๆ การแจ้งซ่อมสินค้า และอาจรวมถึงข้อมูลหลักฐานการชำระเงินที่ลูกค้าอาจต้องชำระสำหรับการใช้บริการดังกล่าว ตามเงื่อนไขที่บริษัทอาจประกาศกำหนดเป็นแต่ละกรณี

ข้อมูลในบทสนทนาระหว่างฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อการสนับสนุนต่าง ๆ แก่ลูกค้า

จุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อความมั่นคงปลอดภัยภายในร้าน ข้อมูลภาพถ่ายจากกล้อง CCTV จะได้รับการบันทึกและเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ศูนย์การค้าของลูกค้าและของผู้อื่นที่เข้ามาใช้บริการและเยี่ยมชมภายในศูนย์การค้า ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวเป็นระยะเวลา 30 วัน ยกเว้นกรณีที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมเพื่อการปกป้องเรียกร้องสิทธิที่บริษัทอาจมีต่อลูกค้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเรียกร้องโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

  2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาการซื้อขายที่บริษัทมีกับลูกค้า ในกระบวนการยืนยันสิทธิในการรับสินค้าต่าง ๆ การยืนยันการชำระราคาสินค้า (ซึ่งอาจรวมถึงการประเมินคุณสมบัติเพื่อการให้สินเชื่อการค้า) การติดต่อประสานงานระหว่างการให้บริการจัดส่งสินค้า ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการจัดส่งสินค้า ให้แก่ลูกค้า และตลอดระยะเวลาการเรียกร้องใด ๆ ที่ลูกค้าอาจมีตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เช่น ระยะเวลาในการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เป็นต้น

  3. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาการให้บริการแก่ User ที่ลงทะเบียนผ่าน Corporate Website กรณีที่ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อใช้ บริการด้วยการเปิดบัญชีผู้ใช้งานผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ข้อมูลของลูกค้าที่ใช้บริการผ่านบัญชีผู้ใช้บริการดังกล่าวจะได้รับการประมวลผลเพื่อการยืนยันตนของผู้ใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ User ดังกล่าวได้ตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการให้บริการที่ตกลงไว้โดยบริษัทในส่วนของธุรกรรมการซื้อขายสินค้า

  4. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาการให้บริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า ข้อมูลการติดต่อรวมถึงหลักการยืนยันตัวตนของลูกค้าจะถูกใช้เพื่อการให้บริการสนับสนุนต่าง ๆ โดยตรงต่อลูกค้า เช่น การบริการสนับสนุนหลังการขาย การรับประกัน การซ่อมบำรุงและซ่อมแซมสินค้า การรับเรื่องร้องเรียน การสำรวจความพึงพอใจ และการติดต่อสอบถามอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ข้างต้นตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่บริษัทยังมีหน้าที่ต้องดำเนินบริการให้แก่ท่าน

  5. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท บริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลการชำระเงินของท่าน เอกสารแสดงตัวตนของลูกค้าที่ใช้สำหรับการจัดทำใบกำกับภาษีตามความประสงค์ของลูกค้า เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องปฏิบัติในการจัดทำบัญชีและชำระภาษี และบริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของบริษัทเพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งในกรณีการประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามหน้าที่ในกฎหมายนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวไว้ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้

  6. เพื่อการปกป้องและใช้สิทธิหรือประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ข้อมูลการให้บริการทั้งหมดของลูกค้าจะได้รับการเก็บ รวบรวม ประมวลผลโดยบริษัท เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท อันได้แก่

ข้อมูลภาพถ่ายจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในร้านค้านั้น บริษัทอาจนำภาพดังกล่าวไปจัดทำเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์บริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางของบริษัทโดยตรงหรือช่องทางสื่ออื่น ๆ ดังนั้น ภาพถ่ายซึ่งถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจได้รับการเปิดเผยและเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ดังกล่าว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาและใช้ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นระยะเวลา ตราบเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะไม่ดำเนินการในลักษณะที่อาจกระทบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร

กรณีการซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Online หรือการจัดส่งสินค้าด้วยระบบ GIS เพื่อการสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าในครั้งถัดไป เป็นระยะเวลา 1 ปีภายหลังจากการซื้อสินค้าครั้งสุดท้ายของลูกค้า

ภาพถ่ายและแบบฟอร์มการจัดส่งสินค้าที่บริษัทได้ดำเนินการจัดส่งนั้น จะได้รับการเก็บและบันทึกไว้เพื่อการตรวจสอบการ ให้บริการ และใช้เพื่อการปกป้องสิทธิกรณีมีการโต้แย้งสิทธิใด ๆ ระหว่างบริษัทและลูกค้า เป็นระยะเวลา 1 ปีปฏิทิน

เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทและท่านลูกค้ารายบุคคล และลูกค้าในภาพรวมของบริษัท โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลการใช้บริการและการซื้อขายทั้งหมดเพื่อการพิจารณาวางแผนการปรับปรุงสินค้า และบริการของบริษัทให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานและการพิจารณาทบทวนการแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ โดยบริษัทจะเก็บข้อมูลดังกล่าวเพื่อการจัดทำรายงานการติดตามตรวจสอบภายใน เกี่ยวกับภาพรวมการให้บริการของบริษัทให้แก่ลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ โดยบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลที่ระบุตัวตนของลูกค้าไว้เป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน และอาจสงวนสิทธิในการเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้อีกเป็นระยะเวลาภายหลังจากนั้น เท่าที่บริษัทอาจพิจารณาว่ามีความจำเป็นทางธุรกิจ โดยรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร

การนำข้อมูลของลูกค้าไปทำการตลาดในรูปแบบของ Facebook Lookalike ในการติดต่อประชาสัมพันธ์ไปยังบุคคลอื่นที่อาจมีลักษณะและความสนใจในภาพรวมใกล้เคียงกับท่าน

การใช้ข้อมูลเพื่อการปกป้องและต่อสู้สิทธิการเรียกร้อง หรือข้อพิพาทต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีกับลูกค้าที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทสงวนสิทธิ์เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการต่อสู้ปกป้องสิทธิระหว่างกันตลอดระยะเวลาของ อายุความที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

  1. กรณีที่ลูกค้าให้การยินยอมเป็นกรณีเฉพาะ บริษัทจะใช้ข้อมูลการติดต่อของลูกค้าในการติดต่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ของบริษัทที่ลูกค้าอาจสนใจ หรืออาจใช้ข้อมูลประเภทคุกกี้เพื่อการติดตามพฤติกรรมการใช้บริการทางออนไลน์ของลูกค้า สำหรับกรณีนี้บริษัทจะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะถอนความยินยอม

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าให้แก่บริษัทจะได้รับการเก็บเป็นความลับ แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

  1. ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการแก่ทางบริษัท เพื่อการให้บริการขายและจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าจากบริษัทให้แก่ลูกค้า พันธมิตรทางการค้าที่จัดทำโปรโมชั่นที่ลูกค้าตกลงเข้าร่วม (เช่น บริษัทโทรคมนาคม กรณีการเปิดเบอร์โทรศัพท์ หรือบริษัทต้นสังกัดที่อาจให้การสนับสนุนการซื้อสินค้าของลูกค้าดังกล่าว) ที่ปรึกษาต่าง ๆ ของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทรับประกันที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้กรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำ และลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว

  2. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร เป็นต้นหรือตามคำสั่งของหน่วยงานดังกล่าว

  3. กรณีที่ท่านให้ความยินยอมเป็นกรณีเฉพาะเพื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลใดเป็นการเฉพาะ

คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม

บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่ท่านมีได้ตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมาย ได้แก่ (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือ (8) สิทธิในการร้องเรียน ทั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทแจ้งไว้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมายได้ที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 053-282222 ต่อ 201 , [email protected]

เลขที่เอกสาร 013/64