วิธีเลือกซื้อเครื่องอบผ้า

1. เลือกเครื่องอบผ้าที่มีขนาดเหมาะกับจำนวนสมาชิก

เราควรเลือกขนาดความจุของเครื่องอบผ้าให้เหมาะสมกับจำนวนของสมาชิกในบ้าน รวมไปถึงความถี่ในการทำความสะอาดเสื้อผ้าในแต่ละครั้ง เพื่อให้เครื่องอบผ้าอยู่กับเราไปอีกนาน และไม่ต้องเสียพื้นที่ใช้งานโดยไม่จำเป็น

2. พิจารณาเรื่องฟังก์ชั่นเสริม

มีฟังก์ชั่นเสริมนอกจากการอบผ้าเพิ่มเข้ามา ทั้งการตั้งเวลา การปรับระดับความร้อน หรือแม้แต่โปรแกรมสำหรับอบผ้าประเภทต่างๆ ทั้งการอบผ้าที่มีขนาดใหญ่ เนื้อผ้าที่มีความพิเศษหรือต้องการทะนุถนอมเป็นพิเศษ

3. ดูเรื่องงบประมาณ

การตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้าจะทำให้เราสามารถเลือกเครื่องอบผ้าได้ตรงกับความต้องการการใช้งาน และจำนวนเงินที่เรากำหนดไว้ และเครื่องอบผ้านั้นจะกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สุดคุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับคุณ

วิธีเลือกเครื่องอบผ้า ตัวช่วยให้ผ้าแห้ง ไม่แคร์แดด

เครื่องอบผ้าแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ

1. เครื่องอบผ้าระบบลมร้อน (Venting)

ทำงานด้วยการเป่าลมร้อนใส่เสื้อผ้า แล้วระบายลมออก ทำให้เสื้อผ้าแห้งสนิท ดังนั้นเครื่องอบผ้าระบบนี้ จึงต้องมีการต่อท่อเพื่อระบายลมร้อนและไอน้ำออกไปนอกบ้าน เหมาะกับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม เพราะมีพื้นที่ในการติดตั้ง โดยมีให้เลือกทั้งแบบอัตโนมัติและแบบตั้งเวลาได้เอง

2. เครื่องอบผ้าระบบควบแน่น (Condensing)

เหมาะกับที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม หรือบ้านที่ไม่สะดวกกับการต่อท่อระบายอากาศ โดยทำงานด้วยลมร้อนเช่นกัน แต่มีการควบแน่นความชื้นไปเก็บไว้ภายในภาชนะบรรจุน้ำภายในตัวเครื่อง เพื่อเทน้ำทิ้งออกภายหลัง ผ้าที่ได้จะไม่แห้งสนิทเหมือนระบบลมร้อน โดยอาจมีความชื้นหลงเหลืออยู่บ้าง แต่จะได้เรื่องความสะดวกในการติดตั้ง และสามารถจัดวางในตำแหน่งที่ต้องการได้หลากหลาย

3. เครื่องอบผ้าระบบปั๊มความร้อน (Heat Pump)

เทคโนโลยีปั๊มความร้อน ช่วยลดแรงดันจากความร้อนบนเนื้อผ้า โดยการอบแห้งที่อุณหภูมิต่ำ ช่วยถนอมเสื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องอบผ้าทั่วไปราว 50 เปอร์เซ็นต์ แต่มีราคาสูงกว่าเครื่องอบผ้าชนิดอื่น

วิธีการใช้เครื่องอบผ้าแบบลมร้อนอย่างเหมาะสม

1. วิธีใช้เครื่องอบผ้าลมร้อน : ตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์การซักผ้า

ก่อนทำการนำเสื้อผ้าไปอบ ควรทำการตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์ก่อนว่ามีความเหมาะสมกับการนำไปอบหรือเปล่า เพื่อเป็นการช่วยป้องกันการหดตัวของเสื้อผ้า หรือก่อให้เกิดความเสียหายกับเนื้อผ้าจากการอบ โดยเฉพาะเนื้อผ้าที่มีความบอบบางสูงอย่างเช่น ผ้าไหม และผ้าขนสัตว์ เป็นต้น

2. วิธีใช้เครื่องอบผ้าลมร้อน : แยกประเภทของเนื้อผ้าก่อนนำไปอบ

3. วิธีใช้เครื่องอบผ้าลมร้อน : เลือกโปรแกรมในการอบที่เหมาะสมกับประเภทของเนื้อผ้า

การเลือกโปรแกรมในการอบให้เหมาะกับความหนาของเนื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายให้กับเนื้อผ้า

4. วิธีใช้เครื่องอบผ้าลมร้อน : ใช้เท่าที่จำเป็น

ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องอบผ้าทุกครั้งที่ทำการซักผ้า ถ้าหากเป็นไปได้ก็ควรใช้การตากแดด ตากลมตามธรรมชาติบ้าง เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องอบผ้าให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และยังช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

วิธีดูแลรักษาเครื่องอบผ้า

1. ติดตั้งเครื่องอบผ้า ในพื้นที่ที่เหมาะสม ไม่ควรวางเครื่องอบผ้ากลางแจ้ง หรือในที่ที่มีแดดส่อง / มีฝนสาด เพราะอาจทำให้สภาพภายนอกทรุดโทรม และตัวเครื่องมีอายุการใช้งานสั้นลงได้ แต่หากจำเป็นอาจใช้ผ้าคลุมเครื่องที่มีขนาดพอดีกับตัวเครื่องได้

2. หมั่นดูแลรักษาและทำความสะอาดเครื่องอบผ้าลมร้อนเป็นประจำ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เครื่องอบผ้ายังคงใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยาวนานมากขึ้น

3. ทำความสะอาดแผ่นกรองใยผ้า และเทน้ำในช่องเก็บน้ำทิ้งทุกครั้งหลังใช้งาน