เช็ก 6 ข้อนี้ให้ชัวร์! ก่อนซื้อสมาร์ททีวีเครื่องใหม่

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีของโทรทัศน์ ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาสมาร์ททีวีเครื่องใหม่อยู่สักเครื่อง คงมีความสับสนอยู่ไม่น้อยว่าควรเลือกแบบไหนดี เพราะในท้องตลาดมีทีวีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ ตามมาดู 6 ข้อที่เราควรนำมาพิจารณาก่อนการเลือกซื้อสมาร์ททีวีเครื่องใหม่กัน

สมาร์ททีวีคืออะไร?

ปัจจุบันสมาร์ททีวีถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีการปรับปรุงและพัฒนามาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน มีความอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล โดยได้รับการพัฒนาในหลากหลายด้าน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีความแตกต่างกับโทรทัศน์จอหนา ๆ ที่เราคุ้นเคยกันอย่างแน่นอน

โดยสมาร์ททีวีจะมีหน้าจอและตัวเครื่องที่บาง มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน เช่น การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การเข้าใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ การเล่นเกม การฟังเพลง รวมถึงการรับชมภาพยนตร์ที่ได้อรรถรสมากขึ้น เนื่องจากมีคุณภาพของเสียงและความคมชัดของภาพที่ดี ซึ่งทีวีบางรุ่นยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียง การปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า หรือการควบคุมด้วยท่าทาง เป็นต้น

6 ข้อต้องเช็กก่อนซื้อ Smart TV

แน่นอนว่ายุคนี้ใครก็ต้องการสมาร์ททีวีดี ๆ สักเครื่องไว้ใช้งาน แต่การเลือกซื้อทีวีที่เหมาะสมและตอบโจทย์นั้นจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายข้อด้วยกัน เพื่อให้การซื้อครั้งนี้คุ้มค่ามากที่สุด สำหรับ 6 ข้อที่ต้องเช็กก่อนตัดสินใจซื้อ มีดังนี้

1.เช็กขนาดทีวี

ข้อแรกที่ควรพิจารณาคือขนาดของหน้าจอทีวี ซึ่งจำเป็นต้องสอดคล้องกับตำแหน่งการจัดวางและระยะห่างในการรับชมหรือใช้งาน เพราะการวางในระยะห่างที่เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถเห็นภาพที่คมชัดและมีมิติ อีกทั้งยังสามารถเห็นความสดของสีได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยขนาดทีวียิ่งใหญ่ก็ยิ่งควรตั้งให้อยู่ห่างจากสายตามากขึ้น เช่น

• ทีวีขนาดต่ำกว่า 32 นิ้ว ควรตั้งให้มีระยะห่างอยู่ที่ 1.5 เมตร หรือน้อยกว่า
• ทีวีขนาด 32- 39 นิ้ว ควรตั้งให้มีระยะห่างอยู่ที่ 1.5 - 2 เมตร
• ทีวีขนาด 40 - 45 นิ้ว ควรตั้งให้มีระยะห่างอยู่ที่ 2 - 2.5 เมตร
• ทีวีขนาด 46 - 55 นิ้ว ควรตั้งให้มีระยะห่างอยู่ที่ 2.5 - 3 เมตร
• ทีวีขนาด 56 นิ้วขึ้นไป ควรตั้งให้มีระยะห่างอยู่ที่ 3 เมตรขึ้นไป

2.เช็กความละเอียดที่ตรงใจ

ความละเอียดของหน้าจอ คือ จำนวนพิกเซลที่ใช้ในการแสดงผลสีสัน ซึ่งหากจอภาพมีพิกเซลมากก็จะยิ่งทำให้ภาพมีสีสันและความสมจริงที่แสดงผลออกมาอย่างคมชัดตามไปด้วย โดยความละเอียดของหน้าจอมีให้เลือกดังนี้

• HD มีความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 Pixel ซึ่งเป็นความละเอียดขั้นพื้นฐานและแพร่หลายในปัจจุบัน อีกทั้งทีวีที่มีความละเอียดระดับ HD ก็มีราคาไม่แพง สามารถซื้อได้ง่าย
• Full HD มีความละเอียดอยู่ที่ 1920 x 1080 Pixel ซึ่งเป็นความละเอียดที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน สามารถช่วยให้เรารับชมภาพยนตร์หรือรายการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• 4K หรือ UHD (Ultra High Definition) ทีวี 4K คือ ทีวีที่มีความละเอียดระดับ 4K หรือมีความละเอียดอย่างน้อย 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งเป็นทีวีที่มีความละเอียดสูงมาก ทำให้เราสามารถรับชมภาพได้อย่างคมชัด สมจริง และได้อรรถรสมากขึ้น
• 8K มีความละเอียดอยู่ที่ 7680 x 4320 พิกเซล ซึ่งทีวี 8K จะแสดงภาพที่มีความคมชัดและละเอียดมากกว่าทีวี 4K ทำให้การรับชมภาพยนตร์หรือรายการต่าง ๆ มีความสมจริงมากขึ้น

3.เช็กจอภาพที่ตอบโจทย์

ทีวีแต่ละแบรนด์แต่ละรุ่นจะมีเทคโนโลยีจอภาพที่แตกต่างกันออกไป โดยเทคโนโลยีจอภาพได้ถูกพัฒนาและออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งาน ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภท ดังนี้

• LCD (Liquid Crystal Display)
  เทคโนโลยีแรก ๆ สำหรับทีวีจอแบน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้หลอดไฟขนาดเล็กเป็นตัวกำเนิดแสงและทำงานร่วมกับ Color Filter เพื่อแสดงสีของ
• LED (light-emitting diode)
  ใช้หลอดไฟขนาดเล็กจำนวน 3 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว เป็นตัวกำเนิดแสง โดยจะให้ความสว่างมากกว่า LCD ซึ่ง LED ถือเป็นเทคโนโลยีจอภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
• OLED TV (Organic Light Emitting Diodes)
  ทีวี OLED เป็นทีวีที่ใช้เม็ดพิกเซลเป็นแหล่งกำเนิดแสง ไม่ได้ใช้หลอดไฟ จอทีวีมีความโค้งบาง สีสันของภาพมีความสวยงาม ไม่ว่าจะดูทีวีจากมุมไหนก็จะมองเห็นภาพที่สวยคมชัด

4.เช็กระบบเสียงที่ใช่

ในการเลือกซื้อทีวี นอกจากภาพจะต้องสวยคมชัดแล้ว เรื่องของเสียงก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเสียงที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมและรับฟังได้ดี โดยควรพิจารณาให้ครบถ้วนทั้งเสียงพูด เสียง Sound Effect และเสียงเบส ว่ามีความชัดเจนและไม่แตกหรือแหลมจนเกินไป

5.เช็กงบประมาณให้เหมาะสม

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของงบประมาณ เพราะหากความชื่นชอบและงบประมาณที่ตั้งไว้สวนทางกัน เราก็จะไม่สามารถซื้อทีวีรุ่นที่ถูกใจได้ โดยเราควรประเมินราคาต่ำสุดไปจนถึงราคาสูงสุดที่เราจะสามารถจ่ายไหวเอาไว้ จากนั้นก็ทำการเปรียบเทียบทีวีแต่ละรุ่นได้ตามชอบ แต่ถ้าหากต้องการประหยัดงบ ก็สามารถตัดฟังก์ชันบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไปได้

6.เช็กบริการหลังการขาย

บริการหลังการขายถือเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากการใช้งานทีวีมีปัญหาขึ้นมา เราก็จะสามารถติดต่อเพื่อปรึกษาและหาทางแก้ไขได้ทันที อีกทั้งบริการหลังการขายที่ดียังช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งานสินค้าให้แก่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ได้ดีอีกด้วย

เลือกซื้อ Smart TV คุณภาพดีที่ Siam T.V.

สำหรับใครที่ต้องการซื้อสมาร์ททีวีที่ใช่ Siam T.V. เราคือศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดีมีมาตรฐานจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ โดยสยามทีวีได้คัดสรรและรวบรวมทีวีเอาไว้ให้คุณเลือกมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในงบประมาณที่คุณสามารถเลือกได้ อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายที่น่าประทับใจอีกด้วย