แชร์เคล็ด(ไม่)ลับ! เลือกซื้อพัดลมประหยัดไฟ ใช้งานได้นาน

พัดลมแบบไหนที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟ แถมยังใช้งานได้นาน บทความนี้เราได้รวมรวมเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อพัดลมมาฝากกัน
6 ธันวาคม 2022

เมื่ออากาศในบ้านเรามีแต่ความร้อนและความอบอ้าวอยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่ในช่วงฤดูหนาวที่มีลมเย็น ๆ เข้ามาช่วยปรับโหมดไปได้บ้าง แต่สุดท้ายแล้วพอตกบ่ายเราก็ต้องกลับมาเปิด “พัดลม” กันอยู่ดี โดยอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้นอกจากจะช่วยสร้างความเย็นแล้ว ยังช่วยระบายอากาศให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น พัดลมจึงเปรียบเสมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าคู่บ้านอันดับต้น ๆ ที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้

แต่สำหรับใครที่ยังตัดสินใจเลือกซื้อพัดลมไม่ถูก หรือไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อพัดลมแบบไหนดี ให้ได้ประสิทธิภาพ ประหยัดไฟ และเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด

วิธีเลือกซื้อพัดลมให้คุ้มค่า

รู้จักประเภทของพัดลมที่ใช้งานภายในบ้าน

1. พัดลมใบพัด (Electric Fan)

มาเริ่มกันที่ประเภทของพัดลมที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และมักจะนิยมนำมาใช้งานมากที่สุดอย่าง “พัดลมใบพัด” ที่มีทั้งแบบพัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมตั้งพื้น ให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก หรือจะเลือกใช้แบบแขวนเพดานหรือติดผนัง ก็สามารถช่วยระบายลมเย็น ๆ ได้อย่างทั่วถึง โดยพัดลมประเภทนี้จะทำงานด้วยระบบมอเตอร์ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไป มอเตอร์จะทำให้ใบพัดหมุน เกิดเป็นลมพัดออกมา โดยมีรัศมีความเย็นอยู่ที่ 20-30 ตารางเมตร และใช้พลังงานประมาณ 43-64 วัตต์

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีการผลิตพัดลมที่เพิ่มแรงลมที่นุ่มขึ้น แต่ยังให้ความแรงของลมเท่าเดิม รวมไปถึงการพัฒนาระบบควบคุมแบบรีโมทคอนโทรล ที่สามารถเปิด-ปิด หรือสั่งการจากระยะไกลได้ อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธได้ด้วย เพื่อรองรับการใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น

เทคนิคการเลือกซื้อพัดลมให้ประหยัดไฟได้มากกว่า

จุดเด่นของพัดลมใบพัด

  • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก
  • ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย
  • มีความทนทาน สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • พัดลมแบบติดผนังและแบบแขวนเพดานมักจะช่วยในเรื่องการประหยัดพื้นที่

2. พัดลมไอน้ำ (Mist Fan)

พัดลมไอน้ำจะมีถังเก็บน้ำอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง มีระบบการทำงานคล้ายกับการพ่นหมอกและสร้างละอองหมอกด้วยการดูดน้ำด้วยแรงดันสูง (High Pressure Pump) จากตัวถัง จากนั้นจะพ่นกระจายผ่านหัวพ่นหมอก (Nozzle) ที่มีรูขนาดเล็กเพียง 0.1-0.4 มิลลิเมตร เพื่อทำให้น้ำแตกเป็นละออง แต่จะมีการกระจายตัวที่รวดเร็วและไม่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเปียกชื้น โดยพลังงานที่ใช้จะอยู่ที่ 23-40 วัตต์ และมีรัศมีความเย็นอยู่ที่ 15-20 ตารางเมตร

จุดเด่นของพัดลมไอน้ำ

  • สามารถใช้ในที่โล่งแจ้งได้
  • ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในอากาศได้ดี
  • มีให้เลือกทั้งแบบติดตั้งถาวรและแบบเคลื่อนที่

3. พัดลมไร้ใบพัด (Bladeless Fan)

พัดลมไร้ใบพัด ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ของพัดลมที่แตกต่างจากพัดลมแบบทั่วไป โดยอาศัยระบบการทำงานจากมอเตอร์ ที่จะดูดอากาศเข้าไปในเครื่อง ผ่านช่องวงแหวนที่อยู่ภายในหัวจ่ายลม และกลายเป็นกระแสลมที่พ่นออกมา พัดลมประเภทนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีตะแกรงครอบเพื่อป้องกันใบพัด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว พัดลมไร้ใบพัดมักจะมีรัศมีความเย็นที่ไม่กว้างมากนัก โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 15-30 ตารางเมตร แต่จะมีช่วงของการใช้พลังงานที่ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ 46-220 วัตต์

จุดเด่นของพัดลมไร้ใบพัด

  • ดูแลทำความสะอาดง่าย
  • ช่วยเพิ่มอากาศที่บริสุทธิ์และดูดซับฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กได้ ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
  • ดีไซน์ทันสมัย สามารถนำไปตกแต่งบ้านได้
  • มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ การตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ เป็นต้น

4. พัดลมไอเย็น (Air Cooler)

พัดลมไอเย็นทำงานด้วยระบบ Evaporative Cooling System หรือระบบทำความความเย็นที่เหมาะสำหรับการปรับอากาศในพื้นที่โล่ง เราจึงมักจะเห็นพัดลมประเภทนี้ตามอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรืองานนิทรรศการ ฯลฯ โดยเป็นระบบดึงความร้อนออกจากอากาศ และดูดอากาศที่ร้อนให้ไหลผ่านและมาปะทะกับแผ่นทำความเย็น (Cooling) ที่มีน้ำเย็นอยู่ในตัวถัง แต่ผู้ใช้งานอาจจะต้องหมั่นเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง พัดลมไอเย็นจะมีรัศมีความเย็นที่ค่อนข้างกว้างตั้งแต่ 65-216 ตารางเมตร และใช้พลังงานเพียง 43-64 วัตต์

จุดเด่นของพัดลมไอเย็น

  • มีขนาดกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
  • มีราคาที่ไม่สูงมาก
  • ช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากใช้พลังงานค่อนข้างน้อย
  • มีหลากหลายรุ่นตามกำลัง สามารถเลือกใช้งานให้สัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงในการเปิดใช้งาน
  • เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถกระจายลมในระยะไกลได้ดี

5 เคล็ดลับการใช้งานพัดลมแบบประหยัดไฟ ใช้งานได้นาน

1. ควรถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน

เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือหลังใช้งานพัดลมทุกครั้ง เราขอแนะนำให้คุณถอดปลั้กให้เรียบร้อยเพราะการเสียบปลั๊กค้างไว้ อาจทำให้กระแสไฟภายในวิ่งหรือทำงานอยู่ตลอดเวลา เพิ่มโอกาสในการสิ้นเปลืองค่าไฟได้

2. ควรตั้งพัดลมในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

การตั้งพัดลมไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยระบายอากาศ แถมยังช่วยลดภาระในการทำงานของพัดลม ไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป และช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย

3. เปิดระดับความแรงให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ควรเลือกเปิดระดับความแรงของพัดลมให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละครั้ง เพราะถ้าหากคุณเปิดพัดลมที่มีระดับความแรงมากกว่าการใช้งาน อาจทำให้เปลืองไฟเกินความจำเป็น

4. เลือกซื้อพัดลมที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือ ฉลากที่บอกข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลค่าใช้จ่ายต่อปี ประสิทธิภาพในการใช้งาน และระดับการประหยัดงาน ซึ่งพัดลมทุกประเภทจะมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เช่นเดียวกัน หากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ให้คุณมองหาพัดลมตั้งพื้นหรือแบบอื่นๆ ที่มีฉลากนี้แปะอยู่ เพื่อช่วยประหยัดไฟและประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้ด้วย

5. หมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดอยู่เสมอ

การหมั่นตรวจสอบและรักษาความสะอาดอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานพัดลมได้อย่างยาวนาน แถมยังลดโอกาสในการส่งซ่อม ซึ่งมักจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่าเดิมด้วย

เลือกซื้อพัดลมคุณภาพ ที่ Siam T.V. เรามีให้คุณเลือกทุกประเภท หลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานภายในบ้าน สามารถเข้าไปเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจัดส่งทั่วไทย