5 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี 2023 เย็นเร็ว ไม่กินไฟ พร้อมวิธีรักษาตู้เย็นให้อยู่ได้นาน ใช้งานคงทน

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าสูง พื้นที่จัดเก็บอาหารไม่เพียงพอ หรืออาหารไม่สามารถรักษาความสดชื่นได้นาน นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะต้องอัพเกรดตู้เย็นที่บ้านให้ทันสมัยขึ้น และในปี 2023 ตู้เย็น 2 ประตูที่มาพร้อมระบบ Inverter คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ระบบ Inverter ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและพลังงาน แต่ระบบยังทำให้ตู้เย็นเย็นขึ้นได้เร็วยิ่งขึ้น และยืดอายุอาหารให้นานยิ่งขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาท่านไปรู้จักกับตู้เย็น 2 ประตูที่มีระบบ Inverter ที่ดีที่สุดในปี 2023 โดยจะอธิบายถึงยี่ห้อและรุ่นที่คุณควรคำนึงถึง พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกตู้เย็นที่เหมาะสมกับคุณและครอบครัว พร้อมแนะนำวิธีดูแลรักษาตู้เย็นที่ถูกต้อง

แนะนำ! 5 ตู้เย็นไม่กินไฟ ใช้งานได้ยาวนาน

1. LG ตู้เย็น 2 ประตู 14Q INVERTER รุ่น GN-B392PQGB

ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ที่มีขนาดความจุ 14 คิว เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่ต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่ ประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่อยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่น ดังนี้

• ระบบ Smart Inverter Compressor ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
• ระบบ Linear Cooling ช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหารได้นานขึ้น
• ระบบ Door Cooling+ ช่วยกระจายความเย็นทั่วถึงทุกช่องภายในตู้เย็น
• ระบบ Multi Air Flow ช่วยกระจายความเย็นอย่างสม่ำเสมอ
• ระบบ No Frost ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
• ระบบ Smart Diagnosis ช่วยตรวจสอบและวินิจฉัยปัญหาเบื้องต้นของตู้เย็นผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน

2. ELECTROLUX ตู้เย็น 2 ประตู 11 คิว รุ่น ETB3400K-A

ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ที่มีขนาดความจุ 11 คิว เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด เน้นความประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ดังนี้

• ระบบ NutriFresh Inverter ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
• ระบบ 360 Air Flow System ช่วยกระจายความเย็นทั่วถึงทุกช่องภายในตู้เย็น
• ระบบ TasteSeal ช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหารได้นานขึ้น
• ระบบ TasteGuard ช่วยกำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย
• ระบบ FlexStor ปรับเปลี่ยนพื้นที่ชั้นวางช่องแช่แข็งได้ตามต้องการ
• ระบบ Door Alarm แจ้งเตือนเมื่อปิดประตูไม่สนิท

3. MITSUBISHI ELECTRIC ตู้เย็น 2 ประตู 12.7 คิว INVERTER รุ่น MR-FC38ES

ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ที่มีขนาดความจุ 12.7 คิว เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม ดังนี้

• ระบบ NEURO INVERTER ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
• ระบบ NEURO FUZZY SYSTEM ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็นได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ
• ระบบ Multi Air Flow ช่วยกระจายความเย็นทั่วถึงทุกช่องภายในตู้เย็น
• ระบบ No Frost ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารเป็นน้ำแข็ง
• CAPSULE DOOR POCKET ช่องเก็บของอเนกประสงค์แบบมีฝาปิด
• รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี และอะไหล่ภายในเครื่อง 2 ปี

4. SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น RT50K6235S8/ST 17.8Q Twin Cooling, Digital Inverter

ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ที่มีขนาดความจุ 17.8 คิว เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่ต้องการใช้ตู้เย็นขนาดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ที่ช่วยคงความสดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจ ดังนี้

• ระบบ Twin Cooling System ระบบทำความเย็นแยกอิสระระหว่างช่องแช่แข็งและช่องแช่ผัก ช่วยให้อาหารคงความสดใหม่ได้นานขึ้น และกลิ่นไม่ปะปน
• ระบบ Digital Inverter Compressor ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
• ระบบ Multi Air Flow ช่วยกระจายความเย็นทั่วถึงทุกช่องภายในตู้เย็น
• ระบบ No Frost ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
• ช่องแช่ผักขนาดใหญ่ จุได้มากถึง 120 ลิตร
• ชั้นวางของแบบเลื่อนเข้า-ออกได้ ช่วยให้หยิบจับอาหารได้ง่ายขึ้น
• รับประกันคอมเพรสเซอร์ 20 ปี

5. SHARP ตู้เย็น 2 ประตู PEACH SERIES 7.9 คิว Inverter รุ่น SJ-XP230T-DK

ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ที่มีขนาดความจุ 7.9 คิว เหมาะกับครบครัวขนาดเล็ก มีโปรแกรมประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบ มาพร้อมช่องแช่ลึกและกว้างขวางใช้งานได้อย่างสะดวกทั้งยังเน้นดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับการใช้ชีวิต ดังนี้

• ระบบ J-Tech Inverter ช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบ
• ระบบ Smart Cooling Fan กระจายความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอรอบทุกทิศทาง และประหยัดพลังงาน
• Renewal Design การออกแบบที่ทันสมัย เพรียวบาง ประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง ผิวเคลือบด้าน สวยหรู
• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (3 ดาว)
• รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี

วิธีดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานตู้เย็น

สำหรับครอบครัวใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยถนอมอาหารได้อย่างครบครันคงหนีไม่พ้น 'ตู้เย็น' ซึ่งทำหน้าที่ในการเก็บรักษาของสดและอาหารให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม พร้อมช่วยยืดอายุอาหารให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วตู้เย็นจะมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี แต่อาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ สำหรับบ้านไหนที่อยากยืดอายุตู้เย็นให้ใช้งานได้ยาวนาน วันนี้เรามีวิธีดูแลรักษาตู้เย็นที่ถูกต้อง

แน่นอนว่าการทำตามวิธีดูแลรักษาตู้เย็นเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ รวมถึงลดปัญหาค่าไฟที่เกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของตู้เย็นได้ แต่การเลือกใช้ตู้เย็นที่แข็งแรงคงทนตั้งแต่เริ่มต้นย่อมช่วยเสริมให้ใช้งานได้ยาวนาน แถมช่วยประหยัดไฟได้ดีมากขึ้น สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนตู้เย็นเครื่องใหม่ที่มีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอ ช่วยรักษาความสดชื่นได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตู้เย็น 2 ประตู ระบบ Inverter ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังสามารถปรับอุณหภูมิภายในตู้เย็นได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ ทำให้อาหารคงความสดใหม่ได้นานขึ้น

1. เลือกตำแหน่งติดตั้งตู้เย็นอย่างเหมาะสม

การเลือกตำแหน่งการวางตู้เย็นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน โดยควรเว้นระยะการวางตู้เย็นจากผนังหรือพื้นที่โดยรอบเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณแผงระบายความร้อนด้านหลังที่ควรตั้งให้อยู่ห่างจากผนังอย่างน้อย 6 นิ้ว หรือ 15 เซนติเมตร เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท นอกจากนี้ไม่ควรวางตู้เย็นใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น เตาอบ เตาแก๊ส หรือหม้อไฟฟ้าที่ต้องใช้งานเป็นประจำ เพราะอาจทำให้ความร้อนภายนอกเข้ามาในตู้เย็นได้มากขึ้น จนทำให้เครื่องต้องทำงานหนักจากการผลิตความเย็นเพิ่มขึ้น

2. จัดเรียงของให้เป็นสัดส่วนและเหมาะสมกับขนาดตู้เย็น

แม้ตู้เย็นจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน แต่การจัดเก็บของทุกอย่างเข้าไปในตู้เย็นจนแน่นขนัดอาจทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะต้องกระจายความเย็นให้ทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาคุณภาพของอาหาร อีกทั้งอาจทำให้อาหารสดบางชนิดไม่ได้รับอุณหภูมิในการจัดเก็บที่เหมาะสม จนเกิดการเน่าเสียที่เร็วกว่าที่ควร จึงควรจัดเก็บสิ่งของในตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบ โดยอาจหากล่อง หรือถุงซิปล็อกมาใช้แยกประเภทของสด หรืออาหารในตู้เย็น ซึ่งสิ่งสำคัญที่สามารถส่งเสริมวิธีดูแลรักษาตู้เย็นได้ตั้งแต่ขั้นแรก คือการเลือกซื้อตู้เย็นที่เหมาะสม ไม่ควรเลือกขนาดเล็กเพราะถูกจนเกินไป แต่ควรเลือกขนาดที่พอดีกับการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่าของอายุการใช้งานที่นานขึ้น

3. ทำความสะอาดแผงระบายความร้อน

แผงระบายความร้อน หรือ Condenser Coils ทำหน้าที่ในการระบายความร้อนออกจากภายในสู่อากาศภายนอก จึงช่วยรักษาอุณหภูมิความเย็นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการดูแลแผงระบายความร้อนจึงเป็นวิธีดูแลรักษาให้ตู้เย็นทำงานได้ดีและอยู่ได้นานมากขึ้น เพราะหากแผงระบายความร้อนมีฝุ่นจับตัวอยู่มากก็อาจเกิดความสกปรกจนไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักจนเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรทำความสะอาดโดยการนำแปรงมาปัดฝุ่นออกอย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อปี ซึ่งต้องถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาดตู้เย็นทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดไฟช็อต

4. ตรวจเช็กขอบยางประตูตู้เย็น

หากขอบยางเสื่อมสภาพอาจทำให้ประตูปิดไม่แน่นสนิท จนความชื้นและความร้อนสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักและเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น การตรวจสอบยางขอบประตูจึงเป็นวิธีดูแลรักษาเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้กับตู้เย็น โดยสามารถทำได้ด้วยการเสียบกระดาษระหว่างขอบยางแล้วปิดประตู หากไม่สามารถเลื่อนกระดาษได้แสดงว่าขอบยางยังอยู่ในสภาพดี แต่ถ้าสามารถเลื่อนกระดาษขึ้นลงได้แสดงว่าขอบยางเริ่มหย่อนยานและเสื่อมสภาพ ซึ่งควรทำการเปลี่ยนให้ไวที่สุด

5. ลดการเปิดปิดตู้เย็นโดยไม่จำเป็น

การเปิดตู้เย็นแต่ละครั้งคือการนำความร้อนภายนอกเข้ามาสู่ตู้เย็น ยิ่งเปิดประตูบ่อยและนานมากเท่าไร ยิ่งทำให้ความร้อนเข้ามาในตู้เย็นได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเร่งอุณหภูมิของตู้เย็นให้คงที่ การเปิดตู้เย็นเมื่อจำเป็นจึงเป็นหนึ่งในวิธีดูแลรักษาให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนัก อีกทั้งในปัจจุบันยังมีตู้เย็นที่มีกระจกบานเล็กให้สามารถมองเห็นด้านในตู้เย็นโดยไม่ต้องเปิด หรือแบบมีที่กดน้ำหน้าตู้ เพื่อลดการเปิดประตู จึงช่วยลดการเปิดปิดตู้เย็นโดยไม่จำเป็น เช่น การเปิดเพียงเพื่อต้องการตรวจเช็กของด้านในได้

สนใจตู้เย็นรุ่นไหน สามารถมาเลือกซื้อได้ที่ Siam T.V. เราเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีตู้เย็นหลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นสแตนเลส ตู้เย็นในครัวเรือน ตู้เย็นขนาดเล็ก ทั้งยังสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้อย่างสะดวก พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 052-086666 และ LINE@ สยามทีวี SIAM T.V.